28 ตุลาคม 2568

รวบ “แจ๊คบางพูน” มิจฉาชีพในคราบพลเมืองดี ฉกนาฬิกาหรู 6 ล้าน

image

วันที่ 22 กันยายน 2565 พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมนายพงษ์เดชฯ หรือ แจ็ค (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ที่ห้องพักในพื้นที่ หมู่ 6 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟ หรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

พร้อมตรวจยึดของกลาง  7 รายการ ประกอบด้วย นาฬิกา Richard Mille 233 สีขาว รุ่นลำดับ 789จำนวน 1 เรือน แหวนเพชร สลักอักษรภาษาอังกฤษว่า THE iCONจำนวน 1 วง เสื้อยืดคอกลมสีขาว ตัวที่นายพงษ์เดชฯ ใส่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ตัว เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ แถบบริเวณไหล่สีเหลือง ปักอักษร CCNC สีขาวจำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน ผู้ต้องหาสวมใส่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ตัว หมวกแก๊ป สีดำ ที่ใส่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิก สี ดำ-เหลือง หมายเลขทะเบียน ขนล 156 ภูเก็ต คันที่ใช้เป็นยานพาหนะในวันที่เกิดเหตุ

สืบเนื่องมาจากเมื่อกลางดึกของวันที่ 13 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 22.57 น. นายฐานานนท์ฯ ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ มาตามถนนในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อผ่านมาบริเวณบริเวณจุดกลับรถยนต์หน้าตลาดพูนทรัพย์ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ผู้เสียหายจึงจอดรถแล้วลงมาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ได้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัยมารับผู้บาดเจ็บไปส่งตัวรักษาโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่า ได้มีชายหนุ่มขับรถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุ และอ้างตัวจะเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ ผู้เสียหายจึงได้ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ติดต่อ โดยชายคนดังกล่าวแจ้งว่าชื่อ “แจ็ค” และเมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึง ผู้เสียหายได้ร่วมกับหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บขึ้นรถ ดันกลับกลายเป็นว่า เมื่อผู้เสียหายกลับมายังรถยนต์อีกครั้ง พบว่า กระเป๋าสะพายที่ใส่ทรัพย์สิน ที่วางไว้บริเวณเบาะกลางด้านหลังฝั่งผู้โดยสารได้หายไป และไม่พบนายแจ็คที่มาแสดงตัวให้ความช่วยเหลือ ผู้เสียหายจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามแต่กลับปฏิเสธ ว่าไม่รู้ ไม่เห็น และไม่ใช่นายแจ็ค และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ต่อมา ผู้เสียหายได้เข้ามาขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ช่วยติดตามตัวคนร้ายพร้อมให้ข้อมูลว่าทรัพย์ที่เสียหายเป็น นาฬิกาหรู ยี่ห้อ Richard Mille 233 สีขาว รุ่น 789 ราคา 6,000,000 บาท พร้อมแหวนเพชร และเอกสารทางราชการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. ทราบผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่เกิดเหตุเร่งแกะรอยสืบสวนเนื่องจากทรัพย์สินมูลค่าสูง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เร่งแกะรอยสืบหาเบาะแสผู้ต้องสงสัยเพื่อตามจับกุมตัวกว่า 1 สัปดาห์ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายพงษ์เดชฯ มีอาชีพรับจ้างเป็นลูกจ้างประจำอยู่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี

โดย พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักบริเวณ หมู่ 6 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการเข้าทำการปิดล้อมทำการล้อมจับ นายพงษ์เดชฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนเรียกให้เปิดประตูให้เปิดประตูห้องพัก เมื่อนายพงษ์เดชฯ เปิดประตู และเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบเสื้อยืดคอกลมสีขาว เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยืนขายาวสีน้ำเงิน หมวกแก๊ปสีดำ ที่ใส่ในวันก่อเหตุ พร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหาย จึงได้ทำการจับกุม นายพงษ์เดชฯ ตามกฎหมาย ก่อนนำไปตรวจยึดจักรยานยนต์รถจักรยานยนต์คันที่นำไปก่อเหตุ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิก สี ดำ-เหลือง หมายเลขทะเบียน ขนล 156 ภูเก็ต จากนั้นนำตัวส่ง พงส.สภ.สวนพริกไทย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามเบื้องต้น นายพงษ์เดชฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบประวัติคดีอาญาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และคดีวิ่งราวทรัพย์พึ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดแพร่มาเมื่อปลายปี พ.ศ.2559 ก่อนจะมาก่อเหตุซ้ำอีก ดังนั้น ทางสอบสวนกลาง ขอเตือนภัยพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังกรณีขับรถ ควรล็อคประตูทุกครั้ง หากเกิดอุบัติเหตุหรือตกอยู่ในอันตราย อย่าลงจากรถเป็นอันขาด ให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที โดยให้แจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุตรงจุดไหน หรือรถเสียบริเวณใด ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการลงจากรถในที่เปลี่ยว แต่หากถูกประทุษร้าย ให้ตั้งสติอย่าตกใจ จดจำตำหนิรูปพรรณคนร้ายเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจทันที

ข่าวล่าสุด