28 ตุลาคม 2568

สาวลาวขมขื่น เจ้าของร้านอาหารหลอกช่วยให้ทำงาน แต่โดนจี้อุ้มข่มขืน

image

วันที่ 28 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอ พร้อมนางสาวบี สาววัย 18 ปี สัญชาติลาว เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือในการดำเนินคดีกับ ชายรายหนึ่งหลังถูกชายรายนี้ ใช้กำลังและอาวุธปืนข่มขู่และข่มขื่น ขณะที่เดินทางไปขอสมัครงาน ย่านบางบัวทอง โดยนายเอ พี่ชาย ระบุว่า น้องสาวได้เข้ามาหางาน และมีพี่สาวได้เป็นคนโพสต์เฟสบุ๊คหางานในกลุ่มคนลาวหางาน ก่อนที่ต่อมาผู้ก่อเหตุจะทักมาและเสนองานที่ร้านข้าวหมกไก่ พร้อมเสนอเงินให้เดือนละ 9,000-13,000 บาท พร้อมดูแลค่าที่อยู่และค่ากินทั้งหมด น้องสาวจึงตัดสินใจเดินทางไปตามที่นัดหมายในช่วงบ่าย 3 โมง ของวันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีการนัดหมายกันที่ย่านบางบัวทอง

เมื่อเดินทางไปถึงผู้ก่อเหตุได้เดินทางมารับยังจุดนัดพบ และพาเข้าไปที่ห้องพัก โดยบอกว่าให้น้องสาวตนเองพักที่ห้องดังกล่าว เมื่อน้องสาวเข้าห้องผู้ก่อเหตุก็เริ่มใช้กำลังบังคับขืนใจ ข่มขื่นโดยในมือมีการใช้อาวุธมีดจี้ที่คอ และขู่ว่าจะฆ่าให้ตายหากพยายามดิ้นหรือขัดขื่น ซึ่งขณะที่ข่มขื่นยังได้มีการใช้มือถือถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย รวมถึงผู้ก่อเหตุยังใช้กำลังบังคับยึดโทรศัพท์มือถือ หนังสือเดินทาง และทรัพย์สินอื่นๆ ที่ติดตัวไปไว้กับตนเอง

และเมื่อเสร็จสิ้นการข่มขื่น ก็ไล่ให้น้องสาวตนเองไปอาบน้ำ ซึ่งขณะน้องสาวอาบน้ำผู้ก่อเหตุก็ยังได้แอบถ่ายคลิปเก็บไว้อีก ซึ่งน้องสาวตนเองได้พยายามหาช่องทางในการติดต่อขอความช่วยเหลือโดยสบโอกาสในช่วงที่ผู้ก่อเหตุตายใจ จึงมีการขอโทรศัพท์มือถือของน้องสาวมาโดยอ้างว่าจะเล่นเกมส์ ซึ่งผู้ก่อเหตุชะล่าใจส่งมือถือให้น้องสาว จึงส่งข้อความขอความช่วยเหลือมาเป็นเวลาเดียวกันกับที่ตนเองได้พยามติดต่ออยู่ก่อนแล้ว เพราะตั้งแต่น้องสาวเดินทางไปหานายจ้างก็ไม่สามารถติดต่อได้

เมื่อตนเองได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากน้องสาวจึงได้เริ่มประสานขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อนจนมีรุ่นพี่คนไทยคนหนึ่งช่วยเดินเรื่องประสานติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและประสานการติดตามตัวต่างๆ จนตำรวจสามารถเข้าช่วยเหลือน้องสาวได้ในช่วงตีหนึ่งของคืนวันเดียวกันซึ่งหลังจากช่วยเหลือน้องสาวออกมาได้น้องสาวยังได้เล่าให้ฟังอีกว่าหลังจากถูกข่มขืนในช่วงบ่ายสามและน้องสาวได้ใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความ ขอความช่วยเหลือผู้ก่อเหตุยังใช้กำลังข่มขืนอีกครั้งในช่วงสองทุ่มพร้อมกับข่มขู่อีกว่าหากพยายามจะหลบหนีจะใช้อาวุธปืนยิงและฆ่าให้ตาย

โดยหลังจากตำรวจสามารถนำตัวน้องสาวออกมาจากผู้ก่อเหตุได้ก็ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง ซึ่งตำรวจได้มีการส่งตัวน้องสาวไปทำการตรวจร่างกาย และขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผล แต่เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า พบร่องรอยการถูกข่มขืน และทำร้ายร่างกายหลายจุด ทั้งที่บริเวณลำคอก็พบรอยเขียวช้ำเพราะถูกบีบคอจากผู้ก่อเหตุ ขณะที่ตัวของผู้ก่อเหตุตำรวจยังไม่สามารถดำเนินการจับกุมตัวได้ เพราะขณะที่มีการเข้าไปช่วยเหลือตัวน้องสาว ผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในบ้านพักอาศัยของตนเองทำให้ตำรวจไม่มีอำนาจในการจับกุมตัว เนื่องจากเป็นยามวิกาล และจุดประสงค์ คือ ต้องการช่วยเหลือน้องสาวออกมาให้พ้น เงื้อมือของผู้ก่อเหตุก่อน

ด้านนายเอกภพ ระบุว่าจากการที่ได้ฟังข้อมูลทั้งหมดตนเองเชื่อว่าพฤติการณ์การก่อเหตุของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเคยทำมาก่อนหน้านี้เพราะดูมีวิธีการที่สลับซับซ้อนและค่อนข้างชำนาญอาจจะเคยมีการกระทำเช่นนี้กับผู้เสียหายรายอื่นมาก่อนจึงอยากขอประชาสัมพันธ์ว่าหากพี่น้องชาวลาวคนใดเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นจากผู้ก่อเหตุหรือเป็นบุคคลอื่นขอให้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุหรือสามารถติดต่อมาขอความช่วยเหลือที่เพจสายไหมต้องรอด  เพื่อเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือเพราะไม่ว่าจะเป็นคนสัญชาติใดหากถูกกระทำและตกเป็นผู้เสียหายในแผ่นดินไทยแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นคนไทยก็ตามก็ต้องถูกดำเนินคดีไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย อย่าหลงเชื่อคำของผู้ก่อเหตุที่มักจะอ้างว่าเป็นคนต่างด้าว ตำรวจจะไม่ช่วยเหลือ

นายเอ ยังฝากถึงพี่น้องชาวลาวว่าอย่าได้หวาดกลัวหากถูกกระทำการเช่นน้องสาวตนเอง เพราะคนไทยพร้อมที่จะช่วยเหลือเช่นตนเองที่มีทั้งคนไทยและตำรวจไทยช่วยเหลือ จนสามารถนำตัวน้องออกมาจากสิ่งอันตรายได้ ส่วนผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ มีรายงานว่า ชื่อบังญา ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อและนามสกลุจริงทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย อยู่ระหว่างการรอเรียกผู้เสียหายไปแจ้งความและ สอบปากคำเพื่มเติมต่อไป

ข่าวล่าสุด