28 ตุลาคม 2568

ชายอิสราเอลร้อง "ทนายตั้ม" โดนทหารหยามศักดิ์ศรีพรากเมีย แถมโดนไล่ยิง

image

วันที่ 6 ตุลาคม 2565 นายรูดี้ บาฮาร์ ชายชาวอิสราเอล ได้เดินทางร้องขอความเป็นธรรมกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กรณีภรรยาชาวไทยมีชู้เป็นทหารผู้มีอิทธิพล ได้ข่มขู่ ยิงปืนหวังฆ่าตนเองและลูกๆ โดยหลังร้องทุกข์ ทนายตั้ม ได้ออกมาแถลงข่าว พร้อมกับเผยว่า นายรูดี้ย้ายมาอยู่ไทยและพบกับภรรยาชาวไทยที่พัทยา จนแต่งงานและจดทะเบียนในปี 2001 ภายหลังย้ายไปอยู่ จ.สกลนคร เนื่องจากภรรยาอยากเปิดคาเฟ่ที่บ้านเกิด หลังย้ายมาทางภรรยาได้พบกับทหาร คือผู้ก่อเหตุ ที่มาทําทางหลวงบริเวณร้านคาเฟ่ที่กําลังสร้าง และทางทหารได้รู้สึกชอบคอกับภรรยาของนายรูดี้ จนได้มีการติดต่อและสานสัมพันธ์กันนานกว่า 3-4 ปี จนกระทั่งนายรูดี้เพิ่งจะทราบก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน

ขณะที่พนักงานในร้านคาเฟ่ ที่เดินทางมาด้วย ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุ (6 ส.ค.65) วันเปิดร้าน มีน้องในร้านแจ้งว่าเห็นลุง คือทหารชู้ มาซุ้มมองอยู่นอกร้านจึงไปบอกบอสคือนายรูดี้  เมื่อทราบจึงเดินไปบอกกับทหารว่าลูกกับเมีย ตนเองดูแลได้ หลังจากนั้นได้เดินไปส่งที่รถ แต่ระหว่างทางผู้ก่อเหตุกลับชักปืนหันมายิงนายรูดี้หวังฆ่าทิ้ง จํานวน 5 นัด ระยะห่างเพียง 30 เมตรเท่านั้น และยิงซํ้าอีก 4 นัด ไปที่ลูกๆแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุเดินทางไปยัง สภ.สว่างแดนดิน เพื่อแจ้งความในกรณีดังกล่าว โดยมีล่ามซึ่งเป็นเพื่อนของภรรยาไปด้วย แต่กลับให้นายรูดี้เซ็นเอกสารที่ไม่ติดใจเอาความ  ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ ตร. ไม่มีการอ่านรายละเอียดในเอกสารให้นายรูดี้ฟัง ผ่านมาเวลากว่า 2 เดือนไม่มีการดําเนินคดีหรือติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ

จึงทําให้วันนี้ (6 ต.ค. 65) นายรูดี้และลูกๆ รวมถึงพนักงานคนสนิท เดินทางเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมกับทนายตั้ม ให้ช่วยดําเนินการในกรณีดังกล่าว โดยทางทนายตั้มรับเรื่อง และยืนยันจะพาผู้เสียหายเข้าพบเจ้าหน้าที่ สภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เพื่อแจ้งความให้มีการดําเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ และให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าโปร่งใสหรือไม่ ส่วนล่ามหากพบมีเจตนาให้เซ็นข้อความอันเป็นเท็จก็จะถูกดําเนินคดีเช่นกัน

ทั้งนี้ ลูกสาวห่วงความปลอดภัยของพ่อและพี่น้อง จึงอยากให้พ่อย้ายกลับไปอยู่ อิสราเอล แต่ทางพ่อเลือกที่จะอยู่ไทยต่อ เนื่องจากยังอยากให้แม่ได้เห็นหน้าลูก

ข่าวล่าสุด