เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ที่ สน.ทองหล่อ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล พร้อมทนาย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีสถานบันเทิง ย่านทองหล่อ "มั่วยาและเปิดเกินเวลา พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.ชื่อดัง ในข้อหา "หมิ่นประมาทด้วนการโฆษณา" จากกรณีที่นายชูวิทย์แถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยนายสันธนะ กล่าวว่า กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ไลฟ์สด และมีการพูดพาดพิงถึงตนนั้น ตนมองว่า เรื่องอื่นไม่ค่อยจะมีสาระแต่กับเรื่องตนมีประเด็นเยอะหน่อย แต่ก็ดีจะได้จบๆกันไป ต่างฝ่ายต่างอยากลืมอดีต เมื่อไม่รู้จักกันจะทำอะไรก็ทำได้เต็มที่ ซึ่งสรรพนามที่ใช้เรียกชื่อตนนั้นมี 4 ขาก็ไม่ใช่อยู่แล้วหรือเป็นเพราะนายชูวิทย์ขาดยาหลังจากที่เมื่อวานไปพบหมอก็ไม่ทราบ และเรียกตนว่าไอ้ ตั้งแต่รู้จักเจอกันมาสมัยตอนนายชูวิทย์ทำธุรกิจซึ่ง บอกว่าตนมาตีสนิทนั้น ทำไมตนต้องไปตีสนิทอะไรกับเขา
นายสันธนะ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นเป็นสารวัตรอยู่ตอนนายชูวิทย์ เริ่มธุรกิจดีจนเริ่มมีตังค์ แล้วตอนเป็นนายตำรวจนายชูวิทย์ก็เกรงใจอยู่ ก็มีทักทายเจอกันแต่นายชูวิทย์มักเลือกคุยกับคนที่เงินอย่างเดียว ส่วนลูกน้องเก่าของนายชูวิทย์ ชื่อนายอ๊อดมหรือศุภชัยนั้นเคยดูแลตนมาก่อน ไม่ทราบว่านายชูวิทย์ยังจำลูกน้องตนได้ไหม เพราะนายอ๊อดคอยดูแลกิจการให้เขาจนเขาดีขึ้นมา เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่เป็นไรในเมื่อเราไม่เคยรู้จักกัน
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า และมีการนำเอกสารการตั้งประเด็นข้อสงสัยถึงคลิปดังกล่าว 5 ประเด็นด้วยกันประเด็นแรกจะต้องมีการเรียกบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปมาทำการสอบปากคำ ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเช่นพนักงานปปส. หรือ แพทย์ผู้ชำนาญ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยและกราดที่ดูแลสถานที่แห่งนั้น ซึ่งต้องเห็นเหมือนกับที่สายของตนนั้นส่งมาให้ว่ามีความผิดปกติที่ผู้ชายผู้หญิงเข้าห้องน้ำรวมกันหรือไม่ และเรื่องของกล้องวงจรปิดซึ่งคดีอื่นๆนั้นเจ้าหน้าที่ไปไล่กล้องแต่คดีนี้ณ.ตอนนี้ได้ทำอะไรไปหรือยัง ซึ่งกล้องวงจรปิดนั้นจะเห็นว่าใครเข้าใครออก
"หลังจากนี้ตนจะมาติดตามคดีบ่อยขึ้นไม่ใช่แค่เฉพาะที่มาแจ้งความเรื่องผับในโรงแรมของนายชูวิทย์ แต่จะแจ้งความดำ เนินคดีกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้พูดพาดพิงถึงตนหลายๆประเด็นจากคนปกติกลายเป็น4ขาก็เป็นความชัดเจน ซึ่งกำลังจะรวบรวมคลิปทั้งหมดเพื่อมาดำเนินคดี ในข้อหาหมิ่นประมาทในการโฆษณา หากนายชูวิทย์จะปฏิเสธก็ปฏิเสธกับพนักงานสอบสวนไป " นายสันธนะ กล่าว.
เบื้อง ต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ เพื่อนำเอกสารดังกล่าวส่งมอบให้กับผู้กำกับสน. ทองหล่อ พิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
