16 กุมภาพันธ์ 2568

THE STORY (EP.1) ล้วงลึกชีวิต “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” จากเด็กบ้านนอก สู่เจ้าของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์

image

“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เผยเส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฝ่าฟันอุปสรรค ต่อสู้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก จวบจนประสบความสำเร็จกลายเป็นเจ้าของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ยอมรับสนใจงานด้านการเมือง มีหลายพรรคทาบทาม แต่ยังไม่ถึงเวลา 

มีกระแสให้พูดถึงอยู่ตลอดเวลา สำหรับเจ้าของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ “ณวัฒน์  อิสรไกรศีล” ล่าสุดก็กรณี “อิงฟ้า วราหะ” มีสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ตกเป็นกระแสดราม่าว่ามีคนพาเธอหนีเที่ยวจนเมา ไม่ยอมมาซ้อมประกวด แถมยังบินลัดฟ้าไปเที่ยวไกลถึงประเทศสิงคโปร์ ทำเอาเจ้าของเวทีมิสแกรนด์ผิดหวังในตัวเธอ อย่างไรก็ดีวันนี้เราจะไม่พูดถึงประเด็นดังกล่าว แต่เราจะไปล้วงลึกเส้นทางชีวิตของ “ณวัฒน์  อิสรไกรศีล” ที่หลายๆคนยังไม่เคยรู้ 

“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2516 ปัจจุบันอายุ 49 ปี เป็นชาวอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนสายธรรมจันทร์ จังหวัดราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนบดินทร์เดชา สิงห์ สิงหเสนี และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

“ผมเป็นเด็กบ้านนอก ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยอะไร อยู่กับวัด เรียนโรงเรียนวัด กินข้าววัด ทุกวันตั้งแต่เล็กจะเห็นทุ่ง เห็นสวน สวนองุ่น สวนถั่วฝักยาว ผมทำทุกอย่างหมดช่วยครอบครัว หาเช้ากินค่ำ ทุกๆ วันจะเห็นรถ บขส.วิ่งเข้ากรุงเทพฯ เราก็ไม่รู้หรอกว่าที่กรุงเทพฯมีอะไร คิดเพียงอย่างเดียวว่ามันน่าจะเป็นฝันของเราได้ เลยตัดสินใจเข้ามาเรียนต่อ บอกกับตัวเองว่าเราไม่มีต้นทุนนะต้องไปสอบแข่งกับชาวบ้านเอา”

“ณวัฒน์” บอกด้วยว่า ตนเองทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั้งแต่ ม.6 ใช้เวลาทำงานตั้งแต่อายุ 16 เรียนจบมัธยมปลายก็ทำแบบฟูลไทม์ทันที ดังนั้นช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เอื้ออำนวยกับการทำงานด้วย

“ระหว่างที่เรียนอยู่ผมได้ออกตระเวนเล่นเกมโชว์ตามรายการโทรทัศน์มากมาย ซึ่ง ได้รับรางวัลจำนวนมากถึงขั้นส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ และเริ่มต้นมีประสบการณ์การเดินทางต่างประเทศจากการได้รับรางวัล จากนั้นได้เป็นพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์ควบคู่ไปกับการเรียนในระดับชั้นปริญญาตรี ผมเป็นเซลขายรถ ผมได้เงินจาการขายรถ ผมก็ได้เงินมาใช้ในการเรียนหนังสือ ผมยอมที่จะจ่ายแพงค่าหน่วยกิตที่แพงกว่า แต่มหาวิทยาลัยตอบโจทย์คนทำงานอย่างเราได้ และที่เลือกเศรษฐศาสตร์เพราะว่า ชอบค้าขาย ชอบทำธุรกิจอยู่แล้ว ขายรถยนตร์เราก็ขาย หนังสือพิมพ์ริมถนนผมก็ขาย ขายมาจนชิน และมันก็เลยเป็นที่มาของความกลมกล่อมว่า ชีวิตเรามีวาทศิลป์ ชีวิตเราต้องมีความกล้า ชีวิตเราต้องมีความอดทน แล้วก็ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา”  

หลังจากนั้นเขาได้ผันตัวเองไปเป็นมัคคุเทศก์ ตระเวนเดินทางไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก และได้เปิดบริษัทนำเที่ยวเป็นของตนเอง ในนาม บริษัท โบอิ้ง ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล จำกัด ก่อนเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองอีกครั้งเมื่อถูกชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งด้วยความสามารถเขาผ่านการทำรายการทีวีมาไม่น้อยกว่า 25 รายการ ซึ่งเป็นรายการที่ผลิตเอง 10 รายการ ที่เหลือเป็นการรับจ้าง

“ส่วนตัวผมนับถือและสนิทกับคุณไตรภพนะ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ ตอนที่เป็นข่าวดังช่วงนั้น ผมไม่ได้อยากลาออกนะ แต่มันเป็นวิกฤติของโควิด วิกฤติของตัวผมซึ่งตอนนั้นมันหนักมาก อยู่ไอซียูประมาณ 20 วัน ผมมาคิดถึงเรื่องส่วนตัวก่อน เริ่มรักตัวเองมากขึ้น ไม่อยากใช้ชีวิตที่มีคิว 7 วัน บางวันวิ่งงานถึง 7 รายการ ยอมรับว่าได้เงินเยอะแต่เราอยากจะเลือกชีวิตที่เป็นสไตล์ของเรา เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดแล้วละ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ ว่าเรามีเรื่องไม่ค่อยสบายใจคือเป็นเรื่องของการเมือง และก็มีผลพวงมาถึงช่อง ผมก็ไม่อยากให้สถานีต้องเดือดร้อน เพื่อความสบายใจของทุกคน ผมจึงขออนุญาตถอยตัวเองออกมา”

เจ้าของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ บอกด้วยว่า หลังจากที่ลาออกมาจากช่อง ก็คิดว่าถึงเวลาละที่เราต้องลุยของเราให้เต็มที่ แล้วทีวีก็เริ่มไม่จำเป็นแล้ว เพราะทีวีปัจจุบันมันจะลดบทบาทลง ด้วยด้วยโซเชียล ด้วยวิถี ด้วยความเปลี่ยนแปลงของสังคมมนุษย์ เราต้องกลับมาสร้างโซเชียลของเราเอง แม้กระทั้งการประกวดมิสแกรนด์ ก็ไม่ได้ผ่านทีวี แต่กลับมีความนิยมมากขึ้น ซึ่งตอนนี้อายุของเวทีการประกวดมิสแกรนด์ก็ราว 10 ปี 10ปีแห่งการอดทน 10 ปีแห่งการรอคอย และมันก็สมหวัง

“มีสแกรนด์ไม่ใช่การประกวดนางงาม แต่เป็นสถาบันที่เพาะเมล็ดพันธุ์ใหม่ให้กับคนไทยะในหนึ่งปีเรามีตัวแทนจาก 77 จังหวัด ก่อนจะเป็นตัวแทนแต่ละจังหวัด อย่างน้อยก็มีอีเว้นท์ซัก 3-4 อีเว้นท์ มีการเก็บตัวกันเป็นสัปดาห์ บางจังหวัดคนสมัครเป็นร้อย คัดมาเก็บตัวเหลือ 25คน เพราะฉนั้นเราได้เด็กๆจังหวัดละ 25 คนแล้วมาเจอผม 77 จังหวัด 10 ปีก็เป็นร้อยเป็นพัน คนเหล่านี้กลายเป็นคนที่มีคุณภาพ แล้วมองทิศทางเดียวกับการเติบโตของประเทศ” 

เมื่อพูดถึงเรื่องการผันตัวเองเข้าสู่แวดวงการเมือง เขายอมรับว่า สนใจเพราะการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ที่ผมยังไม่เล่นการเมืองตอนนี้เพราะยังทำธุระของตัวเองไม่เสร็จเป้าหมายจะต้องพาบริษัทเข้าสู่ตลากหลักทรัพย์ให้ได้ ที่ผ่านมามีคนมาทาบทามเกือบทุกพรรค บางพรรคเสนอให้ สูงถึงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคก็มี 

เจ้าของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ บอกด้วยว่าถึงแม้ปัจจุบันชีวิตจะดีขึ้นอย่างไรก็ตาม ไม่เคยลืมตัวว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตไม่ต่างจากเดิม กินข้าวข้างทาง ขับรถเอง ไม่เรื่องเยอะ คิดในใจเสมอว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้

“เลือกเกิดเราเลือกไม่ได้จริง ผมไม่ได้เกิดที่โรงพยาบาล ผมไม่ได้เกิดที่สถานีอนามัย  ผมไม่ได้เกิดที่โรงหมอ อยู่ๆก็พรวดเกิดที่กลางบ้าน ต้มน้ำร้อนกันเอง พี่ๆช่วยกัน ทุกวันนี้ห้องคลอดยังอยู่เลย ผมมีชีวิตมาได้ก็เก่งแล้วไง แม่ผมก็เก่งแล้ว เพราะฉะนั้นผมอยู่แบบอนาถามาตั้งแต่เกิด เราไม่เคยลืมหรอกภาพบรรยากาศเหล่านี้ ผมเชื่อว่าทุกวิกฤตคือโอกาส พอมีวิกฤติอะไรก็ตามเกิดขึ้นในชีวิต มันมีโอกาสใหม่เสมอ นั้นสิ่งสำคัญ แล้วอีกหลักหนึ่งที่ใช้อยู่เสมอ ความพยายามไม่เคยทรยศใคร เราต้องมีความพยายามอยู่เสมอๆ มันจะไม่ทรยศกับความสำเร็จของเรา” 

ข่าวล่าสุด