“คุณหญิงกัลยา” นำทีมประสานความร่วมมือไทย-สหรัฐ ยกระดับการศึกษา ผลักดันอาชีวเกษตรยุคใหม่เทียบสากล ต่อยอดองค์ความรู้ส่งเสริมศักยภาพและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้เรียน เน้นเทคโนโลยี พัฒนาคนในประเทศให้มีความพร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 ศตวรรษใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงพัฒนาการศึกษา รับมือ VUCA world (พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ปั่นป่วนและคาดเดาไม่ได้)
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) พร้อมด้วยผู้บริหารวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และคณะทำงานโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ แถลงข่าวความสำเร็จหลังเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อประสานความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ยกระดับอาชีวเกษตรสู่สากล ระหว่างวันที่ 5 – 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา
รมช.ศธ. กล่าวว่า การศึกษาดูงานในครั้งนี้ ได้แลกเปลี่ยนความคิดการเรียนรู้และหาแนวทางในการทำงานร่วมกันในด้านการศึกษาและการบริหารจัดการน้ำ ที่เป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติ ซึ่งคาดหวังว่าจะนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดจากพื้นฐานที่มีในด้านเทคโนโลยี ซึ่ง ศธ.ก็มี “โครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ” เพื่อส่งเสริมศักยภาพ และสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี พัฒนาคนในประเทศให้มีความพร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 ศตวรรษใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงพัฒนาการศึกษา รับมือ VUCA world ได้
V- Volatility ความผันผวน
U-Uncertainty มีความไม่แน่นอนสูง
C-Complexity มีความซับซ้อนสูง
A-Ambiguity มีความคลุมเครือ
“เด็กยุคใหม่มีความก้าวหน้ามากขึ้น เราต้องมีภูมิคุ้มกันให้มากยิ่งขึ้น ถ้าเด็กของเรามีความแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้โดยการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผลเชิงตรรกะ จะทำให้เด็กอยู่ในโลก VUCA world ได้อย่างสมบูรณ์ ที่มีความมมั่นใจ มีความสุข แข่งขันในเวทีสากลได้ ประเทศเราต้องเน้นรูปแบบเรียนแล้วทำงานได้ คุณครูต้องเปลี่ยนทัศนคติการสอน ไม่ได้เน้นเฉพาะหลักสูตรที่เข้มข้นท่านั้น แต่ต้องเน้นการฝึกประสบการณ์ให้กับนักเรียน ให้มีทักษะทางด้านวิชาชีพหรือ Professional Skill มากกว่าการให้องค์ความรู้หรือ Knowledge Base แต่เพียงอย่างเดียว สอนแล้วต้องให้ลงมือปฏิบัติ”
ด้านเกษตร ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ส่งเสริมให้เด็กมีรายได้ระหว่างเรียน “โครงการอัจฉริยะเกษตรประณีต” ที่สร้างให้เด็กมีประสบการณ์ จบไปเป็นคนที่มีคุณภาพ มีอาชีพ เป็นผู้ประกอบการได้อย่างมีความมั่นใจ และเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมและชุมชนนอกเหนือไปจากการเรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว สอดคล้องกับแนวคิด STEAM Education ของประเทศไทย ที่ต้องการสร้างเด็กไทยให้เป็นทั้งคนเก่ง คนดี อยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อย่างมีความสุข ถือเป็นนโยบายที่ได้ผลักดันให้มีการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของการมาดูงานในครั้งนี้ คือการนำไปต่อยอดกับสิ่งที่ได้วางรากฐานไว้แล้ว นำไปสู่ความร่วมมือในอนาคตเพื่อสร้างเด็กไทยให้มีศักยภาพทัดเทียมกับสากลภายใต้โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงผันผวนซับซ้อนไม่แน่นอน
ดร.โสภา มะเครือสี ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ กล่าวว่า การมาดูงานครั้งนี้ได้ประสบการณ์อย่างมาก ในเรื่องของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องนำมาปรับใช้กับการเรียนการสอนด้านการเกษตร ให้มีศักยภาพสมรรถนะสูง โดยเฉพาะเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ และเชื่อมั่นว่าการศึกษาดูงานในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการวางรากฐานการศึกษาให้กับเยาวชนไทย ภายใต้นโยบายของคุณหญิงกัลยา ที่จะยกระดับเด็กไทยให้มีความสามารถเทียบเท่ากับสากล
ขอบคุณภาพ/ข้อมูล FB คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช FB ศธ.360 องศา