27 ตุลาคม 2568

"บิ๊กโจ๊ก" แถลงปฏิบัติการเปิดประเทศต้อนรับ นทท. กวาดล้างสิ่งผิดกฏหมายแดนใต้

image

วันที่ 11 มกราคม 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 517 จุด กวาดล้างอาวุธในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 เตรียมพร้อมเปิดประเทศรอรับนักท่องเที่ยว 2 ชายฝั่ง อันดามันและอ่าวไทย โดยมีการแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้น ณ ตำรวจภูธรภาค 8 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย มีจำนวนลดน้อยลงมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยในภาพรวม แต่ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลก ที่หลายประเทศได้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรค พร้อมเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตลอดจนกิจกรรมเทศกาลปีใหม่ 2566 ซึ่งตามพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ล้วนเป็นพื้นที่ที่ชาวต่างชาติและชาวไทย นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงา เป็นต้น

ในการนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้กำหนดและวางมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ในปีงบประมาณ 2566 โดยได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ให้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ลดอาชญากรรมในพื้นที่ สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 ดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จึงได้มีการวางแผนในการดำเนินการ ปิดล้อมตรวจค้น ผู้มีอิทธิพล, อาวุธปืน, ยาเสพติด, วัตถุระเบิด, ค้าประเวณี และโจรกรรมรถ โดยให้ทุกหน่วยในสังกัด ภ.8 รวบรวมพยานหลักฐานในการขออนุมัติหมายค้นต่อศาลเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายทั้งห้องเช่า, เกสเฮ้าส์, บ้านพัก, รีสอร์ต และแหล่งมั่วสุม อาชญากรรมทุกรูปแบบที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 19 - 23 ธันวาคม 2565 กว่า 517 เป้าหมายใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย

- ภ.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 112 เป้าหมาย

- ภ.จว.นครศรีธรรมราช จำนวน 88 เป้าหมาย

- ภ.จว.ชุมพร จำนวน 79 เป้าหมาย

- ภ.จว.กระบี่ จำนวน 75 เป้าหมาย

- ภ.จว.ภูเก็ต จำนวน 66 เป้าหมาย

- ภ.จว.พังงา จำนวน 54 เป้าหมาย

- ภ.จว.ระนอง จำนวน 43 เป้าหมาย

สำหรับผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจเก็บ DNA บุคคลเป้าหมาย 415 ราย, จับกุมอาวุธปืน 88 กระบอก, กระสุนปืน 1,199 นัด, ยาเสพติด 377 ราย (ยาบ้า 430,029 เม็ด และยาไอซ์ 305 กรัม), จับตามหมายจับ 71 ราย รวมผู้ต้องหาทั้งหมด จำนวน 619 ราย โดยมีการจับกุมอาวุธปืนมากสุดใน จว.นครศรีธรรมราช จำนวน 32 กระบอก ตามมาด้วย จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 19 กระบอก และ จว.ชุมพร จำนวน 14 กระบอก

การปิดล้อมตรวจค้น 517 เป้าหมายใน ภ.8 ในครั้งนี้เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร. ได้ให้ไว้ในที่ประชุมบริหาร ตร. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ฯ ผบช.ภ.8 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว รองรับการเปิดประเทศและเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและประชาชนชาวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ที่ผ่านมามีการระดมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ภ.8 อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทำให้พื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้ ปลอดภัยจากอาชญากรรมต่าง ๆ มากขึ้น พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว และลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ให้ประชาชนอยู่กับอย่างสงบสุข

ข่าวล่าสุด