เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ม.ค. 2566 ร.ต.อ.อรุณฤกษ์ คำวัฒนา รอง สวป.สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่ง ปากซอยพระราม2 ที่ 50 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุพบนายสามารถ ช้างอ้น อายุ 35 ปี รปภ.ของโรวรับจำนำ ยืนรอให้การด้วยอาการตตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุตนยืนอยู่ตรงโต๊ะ รปภ.ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าร้าน ติดกับห้างทองพรีเมี่ยมโกลด์ ได้มีคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ165-170 ซ.ม.ใส่หน้ากากอนามัยสีขาว เสื้อแกร็ปไบค์ของฟู๊ดแพนด้า กาง้เกงยีนส์ดำ สะพายกระเป๋าสีดำ เดินมาสังเกตุการณ์ที่หน้าร้าน เหมือนกับลังเลว่าจะเข้าร้านไหนระหว่างโรงรับจำนำกับห้างทอง แต่บังเอิญที่ห้างทองยังเปิดไม่เรียบร้อย ประตูปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง ส่วนโรวรับจำนำเปิดเรียบร้อยแล้ว คนร้ายเดินเข้ามาเหมือนจะมาสอบถามอะไรบางอย่าง แจ่เมื่อเข้ามาประชิดตัวตน ก็ได้ชักอาวุธปืนลูกโม่สีทองออกมาจากเอว ผลักตนให้หันหลัง ใช้อาวุธปืนจี้ด้านหลัง แล้วบังคับให้ตนพาเข้าไปด้านในโรงรับจำนำ บอกว่าถ้าใครตุกติกจะยิงให้ตาย เมื่อตนผลักประตูเข้าไป พนักงานเห็นว่าตนถูกจี้ จึงรีบกดปุ่มล็อกประตูด้านใน กดสัญญาณฉุกเฉินไปยังสน.ท่าข้าม แล้ววิ่งไปหลบหลังร้าน เมื่อคนร้ายเห็นว่าไม่ได้ทรัพย์สินแน่ จึงเอาปืนจี้ตนบังคับให้เดินออกนอกร้าน แล้วคนร้ายก็วิ่งหลบหนีไปห้างเซ็นทรัล พระราม2 เจ้าหน้าที่ออกวิทยุสกัดจับแต่ไร้วี่แวว

แต่ต่อมาเวลา 18.00 น.พ.ต.ท.ทศพร กลีบบัว สว.สส.สน.ท่าข้าม พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.บกน.9 ร่วมกันจับกุมตัวนายพุทธรักษ์ หรือ ช่างโต้ง นาแก้ว อายุ40ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพยายามชิงทรัพย์โรงรับจำนำ ได้ที่บ้านเลขที่48/1323 หมู่บ้านดีเค ซอย 17 ถนนพระยามนต์ธาตุ แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลาง รถจยย.จีทีเอ็กซ์ สีเทา ทะเบียน 3ขจ 1199 กรุงเทพมหานคร ปืนลูกโม่พลาสติก1กระบอก เสื้อ1ตัว กางเกง1ตัว และชุดที่ใส่ขณะก่อเหตุ นำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนนำตัวไปสอบสวนต่อที่สน.ท่าข้าม

จากการสอบสวนนายพุทธรักษ์ ให้การว่า ตนเปิดร้านตัดผมอยู่ที่บ้าน เป็นช่างตัดผมเอง ก่อนหน้านี้ไปกู้เงินนอกระบบมา 5 หมื่นบาท เพื่อมาลงทุนเปิดร้าน โดยจ่ายวันละ 3 พันบาท ซึ่งสูงมากเกินกว่าตนจะหาเงินมาผ่อนใช้หนี้ได้ จึงคิดหาเงินแบบลงทุนน้อยสุด ซื้อปืนเด็กเล่นที่ร้านขายของเล่นแถวบ้าน ก่อนจะเอาเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพาย ขี่รถจยย.ไปจอดไว้ที่วัดท่าข้าม แล้วขึ้นรถแท็กซี่ไปก่อเหตุ แต่เกิดความผิดพลาด จึงวิ่งเข้าไปในซอยพระราม 2 ที่ 50 เปลี่ยนชุดใต้อพาร์ทเมนท์ แล้วเดินออกมาเรียกรถแท็กซี่กลับไปเอารถ จยย.ในวัดท่าข้าม แล้วขี่กลับไปที่บ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่ง มาถูกจับกุมตัวดังกล่าว ตำรวจนำตัวส่งพนักสอบสวนแจ้งข้อหาพยายามชิงทรัพย์ต่อไป
