27 ตุลาคม 2568

รวบ "เจ๊ติมระยอง" แม่เล้าลวงเด็ก 13 ค้ากามผ่านโซเชียล

image

วันที่ 27 ส.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำโดย พ.ต.ต.ศิษฏ์ พูลวงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุมผู้ถูกจับ น.ส.ขวัญสิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี โดยกล่าวหาว่า “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลไม่อายุเกินสิบห้าปี และได้กระทำความผิดตามที่ตกลงกันไว้, ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยกระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำหารค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าประทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร โดยเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่นรับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ให้บริการ, ร่วมกันชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และร่วมกันใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด” ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1757/2565  ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 พร้อมยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดคือโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อวีโว่ (VIVO) สีฟ้าจำนวน 1 เครื่อง (ใช้ในการติดต่อลูกค้า) โดยสามารถจับกุมและตรวจยึด บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเมืองระยอง ถนนตากสินมหาราช ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2565 จากที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ได้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิง ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเด็กหญิงที่อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูจากผู้ปกครองรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ต่อมาเด็กทั้งสองมีปัญหากับผู้อุปการะเลี้ยงดูจึงหนีออกจากบ้านพัก จนกระทั่งไปถูกกลุ่มผู้ต้องหานี้ล่อล่วง ชักชวนให้ไปขายบริการทางเพศ โดยมี น.ส.ติม หรือขวัญสิริ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหานี้เป็นหัวหน้าแก๊ง ร่วมกับเยาวชนอีกคน ร่วมกันเป็นเอเย่นต์ นายหน้า ขายบริการทางเพศเด็กทั้งสองทางช่องทางออนไลน์ โดยการโฆษณาหาลูกค้าทางสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งทางทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์ รวมทั้งลูกค้าที่ตนเคยรู้จักในลักษณะการบอกต่อเป็นคนหาลูกค้าให้

เนื่องจาก ผู้ต้องหามีอาชีพขายบริการทางเพศมาก่อน ถ้าขายบริการทางเพศได้เงิน 1,500 บาท น.ส.ขวัญสิริ หรือติม (ผู้ต้องหา) จะหักไว้ 500 บาท และแบ่งให้เด็กผู้เสียหาย 1,000 บาท โดยเหยื่อทั้งสองคนได้ขายประเวณีตามข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าคนละ 4-5 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยพากันไปเปิดโรงแรมม่านรูดพักอาศัยเป็นรายวันและย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ โดยเด็กทั้งสองให้การว่าเงินค่าตัวที่ตนขายบริการมาได้นั้น ผู้ต้องหาก็มิได้แบ่งให้ตามสัญญา โดยอ้างว่าหักเป็นค่าอาหารและค่าเช่าห้อง และชักจูงให้ผู้เสียหายทั้งสอง เสพยาเสพติดด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจึงได้ติดตามช่วยเหลือเด็กทั้งสองได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดระยอง จึงได้ทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหายทั้งสอง และคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ร่วมกับสหวิชาชีพ พบว่า ผู้เสียหายทั้งสองเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จึงได้นำตัวผู้เสียหาย  ทั้งสองส่งสถานที่คุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและเยียวยา ทางจิตใจแก่ผู้เสียหายทั้งสอง และสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าเอเย่นต์ที่ล่อลวงเด็ก   ทั้งสองไปขายบริการทางเพศคือ ผู้ต้องหานี้ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในข้อหาดังกล่าวข้างต้น

จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ขวัญสิริฯ หรือติม อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1757/2565 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 และ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1754/2565 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ในฐานความผิดตามหมายจับของศาลอาญาข้างต้น และนำตัว น.ส.ขวัญสิริฯ หรือติม ส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ร่วมขบวนการของ น.ส.ขวัญสิริฯ หรือติม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไป

ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง จะได้ทำการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการคนอื่น และขยายผลดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการทางเพศกับเหยื่อ ทุกรายต่อไป ส่วนการสอบถามคำให้การผู้ต้องหา เบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาตามหมายจับ และให้การเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ทำงานที่อาบอบนวดแห่งหนึ่ง และเคยขายบริการมาแล้ว จึงได้ผันตัวเองมาเป็นนายหน้ารับงานให้กับเหยื่อ โดยได้ชักชวนเหยื่อผู้เสียหายให้มาพักอาศัยกับตนภายในห้องพักแห่งหนึ่ง และหางานขายบริการทางเพศให้โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งในแต่ละครั้งที่ได้รับงาน ตนเองจะหักค่านายหน้ากับเหยื่อผู้เสียหายที่ขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า ครั้งละ 500 บาท ซึ่งรายได้จากส่วนนี้ ตนเองได้นำมาเลี้ยงดูครอบครัว โดยตนเองนั้นมีลูกอยู่ 2 คน และทำในลักษณะดังกล่าวนี้มาเรื่อยๆ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจสอบสวนกลางได้ฝากประชาสัมพันธ์ว่า ปัจจุบันปัญหาที่สำคัญของการค้ามนุษย์ เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ขอให้ผู้ปกครอง ครู ช่วยกันดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดทั้งในการใช้ชีวิตตามปกติ และการเล่นสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี หากพบเบาะแสของการค้ามนุษย์ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1191

ข่าวล่าสุด