ทลายรังร้านรับซื้อของเก่า จับหนุ่มลอบผลิตหมึกพิมพ์ปลอมขาย

วันที่ 3 กันยายน 2565 พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.1 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าตำรวจ กก.1 บก.ปอศ., เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนของ เอชพี ฮิวเลตต์-แพคการ์ด กรุ๊ป แอล แอลซี ร่วมกันตรวจค้นร้านรับซื้อของพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร และจับกุมตัวผู้ต้องหา นายเมธี (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งต้องหาว่ากระทำความฐาน “ปลอม และมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร และเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใดๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ หรือ ทำให้ปรากฏชื่อสินค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น”

ทั้งนี้ ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม และคำสั่งกองบัญชาการสอบสวนกลางโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไปและการกระทำความผิดรวมถึงการก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. สืบสวนทราบว่า บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร มีการลักลอบผลิตหมึกปลอม ยี่ห้อ HP, Canon, Brother และ Samsung

ต่อมา ในวันที่ 2 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ และ เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนของ เอชพี ฮิวเลตต์-แพคการ์ด กรุ๊ป แอล แอลซี ร่วมกันนำหมายค้น ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ที่ 648/2565 ลงวันที่ 1 กันยายน 2565 เข้าทำการตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พบ นายเมธีฯ แสดงตนเป็นเจ้าของสถานที่ดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบสินค้า ประเภทตลับหมึกที่ปลอมเครื่องหมายการค้าอาทิ เช่น HP, Canon, Brother และ Samsung จำนวน 6,331 ชิ้น เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ นายเมธีฯ อายุ 43 ปี ทราบ จากนั้นควบคุมตัวนายเมธีฯ พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานเป็นอดีตพนักงานขายของบริษัทผลิตหมึกพิมพ์ยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง จึงมีข้อมูลของฐานลูกค้า ตามร้านค้าต่างๆ ทั้งของรัฐและของเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป จากนั้น เมื่อผู้ต้องหาลาออกจากบริษัทดังกล่าวจึงผันตัวมาเป็นพ่อค้ารับซื้อของเก่าบังหน้า และรับซื้อสินค้าจำพวกตลับหมึก ยี่ห้อต่างๆ ที่ใช้แล้ว เพื่อนำมาดัดแปลงทำปลอมตลับหมึก ยี่ห้อต่างๆ เพื่อจำหน่ายให้แก่ ลูกค้าเดิม ตามร้านค้าต่างๆ ทั้งของรัฐและของเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป.