27 ตุลาคม 2568

หนึ่งเดียวในโลก ประเพณีสลากย้อมเมืองลำพูน งานบุญใหญ่ก่อนออกพรรษา

image

วันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ บริเวณถนนอินทยงยศ หน้าศาลากลางจังหวัดลำพูนหลังเก่า อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดงานสืบสานประเพณีสลากย้อม หนึ่งเดียวในโลก ประจำปี 2565 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2565 เพื่อส่งเสริมรณรงค์รักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของจังหวัดลำพูน รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยววัฒนธรรมจากชุมชน สร้างรายได้เศรษฐกิจสู่จังหวัดลำพูน โดยมี คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ( ตอนบน ) นำโดย พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิกวุฒิสภา และคณะฯ พระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นางปนัดดา เนาวรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน ปลัดจังหวัดลำพูน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ภายในงานมีการอวดโฉมต้นสลากย้อมที่ได้รับรางวัล ด้วยความสูงไม่น้อยกว่า 12 เมตร พร้อมชมการแสดงของนักเรียนจากโรงเรียนเมธีวุฒิกร การแสดงฟ้อนและศิลปะพื้นเมือง จากนักเรียนโรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ลำพูน การแสดง แสง สี เสียง อย่างตระการตา

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานประเพณีบุญหลวงของชาวลำพูน ในงาน"สลากย้อมเมืองลำพูน หนึ่งเดียวในโลก" ประจำปี ในวันที่ 10 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นวันถวายทานต้นสลากย้อม ประจำปี 2565 ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูนโดยทั่วกัน

“สลากย้อม” เป็นประเพณีที่ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเกิดขึ้นที่เดียวในโลก โดยมีรากฐานมาจาก "ชาวยอง" หรือกลุ่มชาติพันธุ์ลื้อจากสิบสองปันนา ก่อนจะอพยพมาอยู่ที่เมืองยองในพม่าและย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดลำพูนอีกทีหนึ่งเมื่อประมาณ 200 กว่าปีที่แล้ว ประเพณีสลากย้อมเมืองลำพูน เกิดขึ้นที่จังหวัดลำพูน เป็นส่วนสำคัญของงานประเพณี “ทานสลากภัตร” ซึ่งเป็นการทำบุญประจำปีก่อนออกพรรษา คนล้านนามักจะจัดทานสลากภัตรในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 “สลากย้อม” เป็นการถวายทานเพื่อเป็นพุทธบูชาของหญิงสาว บางพื้นที่จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นหญิงสาวที่มีอายุ 20 ปีเท่านั้น ขณะที่บางพื้นที่ไม่จำเป็น ขอให้เป็นช่วงอายุ 20 ปี โดยประมาณอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าสัก 2-3 ปีก็ได้ แต่สิ่งที่เชื่อเหมือนกันก็คือต้องเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน และเชื่อกันว่าการถวายสลากย้อมของหญิงสาวได้รับอานิสงส์ผลบุญสูงยิ่ง เทียบเท่ากับการบวชของผู้ชาย ลักษณะพิเศษของทานสลากย้อมคือ การนำประวัติของหญิงสาวที่เป็นเจ้าภาพของงาน หรือเป็น “ผู้ทานสลากย้อม” มาแต่งเป็นคำประพันธ์ นำมาผูกเล่าทำนองโบราณเป็นเรื่องตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้คนที่มาเที่ยวได้รับรู้ถึงประวัติและความดีงามของผู้ทานสลากย้อม ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับการ เรียกขวัญ (ฮ้องขวัญ) นาคที่กำลังจะบวช ซึ่งตามประเพณีล้านนา จะมีการเล่าเป็นทำนองเทศน์ล้านนา บอกเล่าประวัติของผู้ที่กำลังจะบวชให้รู้ว่า เป็นผู้ที่กำลังทำความดี สละทุกอย่าง เพื่อก้าวเข้าสู่บวรพระพุทธศาสนา.

ขอบคุณภาพ-ข่าว : ประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน

ข่าวล่าสุด